ความทรงจำ

แต่ถ้าจะว่าไป ถึงแม้ผมจะไม่ได้เป็นซุปตาร์
อย่างน้อยก็ได้ทำสิ่งที่ฝันสำเร็จ คือได้เป็นนักแสดง ได้แสดงหนัง
ก็น่าจะภูมิใจนะ
สำหรับในความจริง ชีวิตไม่ได้หยุดที่ได้แสดงหรือไม่ได้แสดง
เมื่อขึ้นแล้วก็ต้องลง อย่างง ต้องบอกตัวเอง
ทุกวันคือการเรียนรู้ อย่าซึมเศร้า อย่าเปรียบเทียบ
มองปัจจุบัน และทำให้ดี
เพราะอย่างน้อยในวันข้างหน้า
มันจะเป็นความทรงจำที่แสนสวย

ผมได้แสดงบางระจันไม่ใช่บังเอิญนะครับ
ผมต้องไปทำการคัดเลือก หรือการ ออดิชั่น น่ะครับ
ต้องไปทดสอบการแสดงให้ผู้กำกับดู
ผมผ่านการคัดเลือก โดยที่ไม่รู้ว่าจะต้องแสดงเป็นใคร
ขั้นแรกต้องไปฝึกดาบ และเรียนacting
กับอาจารย์หนึ่ง คนไทยคนแรกที่ปีนเขาเอฟเวอร์เรสได้สำเร็จไงครับ
และในช่วงที่ถ่ายผมต้องสวดมนต์
อาจารย์หนึ่งเป็นคนให้บทสวดนั้น
และผมก็ยังสวดอยู่ทุกวัน บทสวดนั้นมีดังนี้

พุธธัง ปัดถะมะกัง วันเท
ธัมมัง วันเท ทุติยะกัง
สังฆัง ตะติยะกัง วันเท
อาจาริยัง จะตุถะกัง
รัตตะนะยัง นะมัสศิตะวา
ศิระสา ชานุ ยุคคะเล
อันตรายัมปิ คะตัสสัง
สัพพะสะตุ วินาศสะตุ


และผมยังต้องไปทำworkshop
ต้องไปเป็นพระและใช้ชีวิตแบบพระจริงๆเพื่อเรียนรู้และรู้สึกให้สมจริงเป็นอาทิตย์เลย
และที่สำคัญตอนนั้นผมไม่รู้จักหลวงพ่อธรรมโชติ
ผมจึงต้องเริ่มศึกษา
และไปที่ค่ายบางระจันที่สิงห์บุรี
เพื่อกราบขมาและเป็นขวัญกำลังใจให้กับผม
ในความรู้สึกของผม หลวงพ่อต้องแสดงความเข้มแข็งเมื่ออยู่ต่อหน้าชาวบ้าน
รู้ทั้งรู้ว่าพวกเขาต้องพลีชีพเพื่อรักษาถิ่น
ในยามศึกสงครามเยี่ยงนั้น
จึงดูจริงจังมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น